“สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ร่วมสร้างประเทศไทยให้ยั่งยืน Sustainable Thailand” โดยระบุถึงความสำคัญของแนวทางสัมมาชีพ ว่าจะเป็น “จุดคานงัด” ในการแก้ไขปัญหาประเทศที่เผชิญทั้งแรงปะทะจากปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ

“เรากำลังต่อสู้กับปัญหาภายในประเทศ อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือน ปัญหาความเชื่อมั่นต่างๆ ปัญหาขีดความสามารถในการแข่งขัน  ขณะที่ปัญหาระดับโลก อาทิ การปรับตัวรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์

สิ่งที่กังวลคือ คนดีจะท้อแท้ กลายเป็นสังคมที่ขยายคนไม่ดีให้มากขึ้น นำไปสู่สังคมโกลาหล ช่วงชิงความได้เปรียบตลอดเวลา ซึ่งสัมมาชีพคือคำตอบในการแก้ไขปัญหา เพราะสัมมาชีพ คือการประกอบอาชีพ ที่ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดผู้อื่น และไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม มีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้คนมีความสุข เป็นการสร้างสมดุล ถือเป็นจุดคานงัดประเทศจากปัญหาต่างๆ อย่างแท้จริง”

เป็นคำกล่าวตอนหนึ่งที่ “สนธิรัตน์” ได้ระบุในการอบรมหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 14 หรือ Leadership for Change # 14 ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิสัมมาชีพ

เขาขยายความว่า การดำเนินการตามแนวทางสัมมาชีพ ตามคำกล่าวของ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสัมมาชีพ จะทำให้เกิดมรรค 8 ของการพัฒนาที่เชื่อมโยง ไม่แยกส่วน  ได้แก่  การมีเศรษฐกิจที่ดี  จิตใจที่ดี สังคมที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดี วัฒนธรรมที่ดี การศึกษาที่ดี สุขภาพที่ดี และการมีประชาธิปไตยที่ดี

ดังนั้นจึงคาดหวังว่าผู้ที่จบหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง จะนำแนวทางสัมมาชีพไปขยายผล “ลงมือปฏิบัติ” เพื่อสร้างชุมชนและสังคมที่ดีในภาคส่วนที่แต่ละคนสังกัด ให้มีส่วนในการแก้ไขปัญหา “เศรษฐกิจปากท้อง” เป็นฟันเฟืองที่สร้างความยั่งยืนให้กับประเทศจากฐานราก

      “ประเทศไทยจะยั่งยืนได้ต้องอยู่ที่ข้างล่าง ถ้าข้างล่างลุกฮือคือการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ต้องผนึกกำลังให้เกิดรูปธรรม

ผู้ที่จบหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่น 14 คือหนึ่งในความหวังที่จะนำการเปลี่ยนแปลง”

สนธิรัตน์ ยังเสนอแนวคิด การผนึกกำลังระหว่างผู้จบหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงในแต่ละรุ่นรวมมากกว่าพันคน  ร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม โดยมีมูลนิธิสัมมาชีพเป็นแกนกลาง เชื่อมประสานเพื่อให้เกิดการผลักดันโครงการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่แนวทางสัมมาชีพ ซึ่งจะเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญบนประโยชน์ร่วมกัน ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับประเทศ

เป็นสาระจากหลักสูตรผู้นำ–นำการเปลี่ยนแปลงที่ผู้เข้าอบรมได้รับจากเหล่ากูรู วิทยากรชั้นนำ เพื่อแปลงความรู้ไปสู่การปฏิบัติตามแนวทางสัมมาชีพ และขยายผลออกไปเป็นการสร้าง “สัมมาชีพเต็มพื้นที่” ตามปณิธานของมูลนิธิฯ