LFC-12 ชูโมเดล“เกลือเพชรบุรี” มุ่งพัฒนาสู่“วิสาหกิจสัมมาชีพ”
LFC-12 ชูโมเดล“เกลือเพชรบุรี”
มุ่งพัฒนาสู่“วิสาหกิจสัมมาชีพ”
LFC-12 แจงแนวทางผนึกพลังผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง ชูโมเดลวิสาหกิจเกลือเมืองเพชร นำพัฒนารายได้ 150 ล้านบาทต่อปี พร้อมดันเศรษฐกิจปากท้องคนจน เปิดพื้นที่สู่แหล่งท่องเที่ยวสัมผัสวิถีการผลิตเกลือ 10 ล้านบาทต่อปี พร้อมขอรัฐ-เอกชนสนับสนุนงบ 5 ล้านใช้ขับเคลื่อนสร้างโอกาสให้คนเมืองเพชร
การอบรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 12 (LFC-12) เพิ่งจบไปหมาดๆเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2565 โดยในวันสุดท้ายตัวแทน LFC-12 ขึ้นโชว์โมเดลวิสาหกิจเกลือเมืองเพชรบุรี เป็นแนวทางยกระดับรายได้ และการมีชีวิตแบบสัมมาชีพเต็มพื้นที่
ตัวแทน LFC-12 นำเสนอแนวคิดว่า ต้องการทำนโยบายประชาสร้างไทย เพื่อแก้ปญหาความยากจน โดย LFC-12 ลงพื้นที่เพชรบุรี พบเห็นเกลือเมืองเพชร และรับรู้ข้อมูลอัตรการผลิตกว่า 3 แสนตันต่อปี ถ้าขายราคา 0.50 บาทต่อกิโลกรัม เกิดมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นเงินสามารถสร้างโอกาสชีวิตให้ชาวเพชรบุรีได้ แต่ขณะนี้เกษตรกรผลิตเกลือเมืองเพชรยังยากจน เพราะไร้โอกาสยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนคนทำเกลือหาเลี้ยงครอบครัว
ทั้งนี้ เนื่องจากการผลิตเกลือเมืองเพชรในช่วงที่ผ่านมา เป็นแบบผลิตมากแต่มีรายได้น้อย เมื่อ LFC-12 ลงพื้นที่และจึงคิดโมเดลพัฒนาเกลือมายกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น โดยไม่เน้นตั้งราคาเกลือให้สูงแล้วขายให้ชุมชน แต่มุ่งสร้างกระแสให้คนรู้จักเกลือเมืองเพชร เพื่อกระตุ้นให้เกิดค้นหาว่า เป็นเกลือที่ดีอย่างไร จากนั้นหนุนเสริมด้วยการสื่อสารให้คนเดินทางมาเมืองเพชร ให้ได้สัมผัส มาเห็น และได้ชิมเกลือเพื่อรับรู้ถึงความแตกต่างจากเกลือแหล่งอื่นอย่างไร
สิ่งสำคัญเชื่อมั่นว่า เมื่อคนมาสัมผัสแล้ว เรามุ่งหวังจะให้เกิดการสื่อสารต่อไปให้คนอื่นที่ไม่มีโอกาสได้มาสัมผัส ได้ชิม แต่ได้รับรู้คุณภาพเกลือเมืองเพชร แล้วเกิดการผลิตสินค้าและบริการต่างๆ มารองรับคนที่มาสัมผัส กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว อีกทั้งให้คนเมืองเพชรกระจายเรื่องราวคุณภาพเกลือให้คนต่างถิ่นได้รับรู้ ซึ่งจะเป็นการสร้างความภูมิใจให้ชุมชนผลิตเกลือเมืองเพชรได้อย่างมากมาย
“การทำงานเช่นนั้นต้องเกิดจากรัฐร่วมมือกับเอกชน โดย LFC-12 จะเป็นตัวกลางเชื่อมโยงการทำงานทุกอย่างให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อีกอย่างมูลนิธิสัมมาชีพต้องผลักดันให้เกิดกิจการเอสเอ็มอีให้ได้ เพื่อสร้างเครือข่ายให้เต็มพื้นที่ และกระจายการทำงานออกจากพื้นที่เมืองเพชรไปใกล้เคียง”
อย่างไรก็ตาม ตามโมเดลเกลือนั้น ยังมั่นใจว่า มีการบริหารจัดการทั้งการผลิต หารายได้กลับมาหมุนเวียนและใช้ต่อให้เกิดประโยชน์กับชุมชนให้มากที่สุดเพื่อสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนในด้านเงินทุนดำเนินงาน 5 ล้านบาท เพื่อมาบริหารจัดการและเริ่มแผนงานที่ออกแบบไว้
นอกจากนี้ โมเดลนี้ยังต้องได้รับการสนับสนุนด้านความเห็นจากทุกส่วนของผู้ผ่านการอบรมผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงทุกรุ่น มาขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายร่วมกัน ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสให้กับคนเมืองเพชรบุรี โดยแนวทางโมเดลที่วางไว้มีทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการบริการ การประชาสัมพันธ์ และยังมีเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆอีก ซึ่งต้องหารือในรายละเอียดกัน
“จึงขอโอกาสจาก LFC ทั้ง 12 หรือ 13 รุ่น มาเป็นพันธมิตรสร้างความเข้มแข็งให้กับชาวเพชรบุรี โดยร่วมขับเคลื่อนในด้านเศรษฐกิจให้เกิดงบประมาณกว่า 15 ล้านบาท รวมถึงทำมูลค่าเกลือเพชรบุรี ซึ่งเรามั่นใจจะขับเคลื่อนให้ได้ไม่ได้กว่า 3 เท่าของปัจจุบัน และสุดท้ายจะเกิดการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังคงรักษาปรัชญา ภูมิปัญญาผลิตเกลือของคนเพชรบุรีให้คงทนสืบไป”
ติดตามข้อมูลข่าวสารของมูลนิธิสัมมาชีพเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.facebook.com/sammachiv
https://www.facebook.com/chumchonmeedee
https://www.youtube.com/user/RightLivelihoods