skip to Main Content
02-530-9204 sammachiv.pr@gmail.com
เปิดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนสีเขียว @วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง จ.ตราด

เปิดเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนสีเขียว @วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง จ.ตราด

12 มิถุนายน 2567 มูลนิธิสัมมาชีพ นำโดยคุณสุนิสา เดชอุ่ม เจ้าหน้าที่พัฒนาผู้ประกอบการ คุณวิไลรัตน์  ชมทิศ เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายงานระดมทุน และคุณสุทธิกรณ์ ณ บางช้าง เจ้าหน้าที่บริหารสำนักงาน มูลนิธิสัมมาชีพ ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับแกนนำชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง ถึงแนวทางการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนสีเขียว (Green Community Tourism) โดยความร่วมมือระหว่างมูลนิธิสัมมาชีพ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในพื้นที่ชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง จังหวัดตราด ทำการวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ มูลนิธิสัมมาชีพได้จัดประชุมในลักษณะ  Focus Group แก่แกนนำวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง

โดยที่ประชุมได้มีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานการณ์การท่องเที่ยวในปัจจุบัน ซึ่งมีกระแสการท่องเที่ยวตามแนวทาง BCG เพื่อการสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นเทรนด์ใหม่ของการท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ อันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อน ที่มากระทบต่อวิถีชีวิตของการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ และนโยบายการส่งเสริมได้มุ่งเน้นถึงการพัฒนาที่คำนึงถึงความยั่งยืน นั้นหมายถึงการลด ละ เลิก กิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

การท่องเที่ยวนับเป็นกิจการที่ก่อให้เกิดรายได้เข้าประเทศ และที่สำคัญคือเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อการสร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับคนในประเทศ การท่องเที่ยวชุมชนนับเป็นกิจการของชุมชนที่มีการบริหารจัดการโดยชุมชน และเกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างแท้จริงและครั้งนี้ชุมชนก็ได้ตระหนักถึงการจัดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง BCG และได้แลกเปลี่ยนถึงผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการของกลุ่มที่เน้นเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อม

 

โดยชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่างนั้นมีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญ คือ 1) ต้นกระบกยักษ์ซึ่งเป็นไม้ใหญ่ มีอายุกว่า 100 ปี

2) ทรายแดง ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมชุมชนบ้านธรรมชาติล่าง มักจะชอบทำกิจกรรมหมกทรายแดง ทรายแดงเม็ดโตกว่าเม็ดทรายทั่วไป เมื่อแห้งแล้วจะไม่เกาะติดกับผิวหนัง ซึ่งทรายแดงนั้นจะช่วยบำบัดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย คลายความอ่อนล้าได้ โดยจะใช้เวลาในการหมกแต่ละครั้งประมาณ 20-30 นาที

 

รวมถึงยังมีฐานที่ใช้ทำกิจกรรมของนักท่องเที่ยวที่เน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การทำผ้าสามป่า การจัดการขยะ การทำภาชนะจากกาบหมาก การทำบล็อกฝังกลมขยะ การทำวัสดุเหลือใช้มาทำกระถาง

 

ซึ่งชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่างได้รับมาตรฐานรับรอง STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating 5 ดาว อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทางชุมชนบ้านธรรมชาติล่างจะได้รับมาตรฐาน Star 5 ดาวแล้ว ทางชุมชนก็มีแผนงานที่ชุมชนต้องการจะพัฒนาต่อ คือ การทดลองปลูกหญ้าทะเล เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่งทะเล

จากการประชุมร่วมกับแกนนำชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง ทำให้ทราบว่าทางกลุ่มมีความต้องการ 1) การประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนบ้านธรรมชาติล่างเป็นที่รู้จักมากขึ้น 2) ความรู้ในการปลูกหญ้าทะเล เนื่องจากตอนนี้ทางกลุ่มกำลังทดลองปลูกหญ้าทะเล แต่ยังไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ

 

วันที่ 13 มิถุนายน 2567 ชุมชนท่องเที่ยวบ้านธรรมชาติล่าง ได้พาทีมงานมูลนิธิสัมมาชีพ ไปดูเส้นทางต่างๆ ของการท่องเที่ยวในชุมชนโดยเริ่มจาก 1) เขาวงเวียน ซึ่งเป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยว และเป็นจุดชมวิวของชุมชนบ้านธรรมชาติล่าง โดยจะที่จุดชมวิวจะมีศาลเจ้าพ่อเขาวงเวียนที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาเช็คอิน และกราบสักการะเจ้าพ่อเขาวงเวียน

2) บ้านผ้าสามป่า ซึ่งเป็นฐานทำกิจกรรมทำผ้ามัดย้อม 3 ป่า จากสีธรรมชาติที่นอกจากจะเป็นกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำแล้ว ยังเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่น เป็นของฝากของที่ระลึกได้อีกด้วย

หลังจากดูเส้นทางการท่องเที่ยวทั้ง 2 จุดแล้ว ทางกลุ่มได้มีจัดอาหารว่าง ซึ่งภาชนะที่ใช้ใส่อาหารทางจะเน้นภาชนะที่ทำมาจากธรรมชาติ ลดการใช้กล่องโฟมและพลาสติก โดยทางกลุ่มจะใช้กาบหมากที่ร่วงหล่นและใบไม้ในชุมชนให้กลายเป็นภาชนะใส่อาหารทางเลือกที่ปลอดภัย เป็นการเพิ่มมูลค่าของวัสดุในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นกาบหมาก ใบสัก ใบหูกวาง ต้นจิก ใบบัว นำมาล้างทำความสะอาด ผึ่งแดด ก่อนนำมาขึ้นรูปกับเครื่องอัดขึ้นรูปภาชนะด้วยความร้อนสูง ประมาณ 200 องศาเซลเซียส และนำมาตัดตกแต่ง จึงทำให้ภาชนะจากวัสดุธรรมชาติที่ผลิตแห้ง ปลอดเชื้อ ถูกสุขอนามัย และสวยงามน่าใช้

ซึ่งทางชุมชนบ้านธรรมชาติล่างได้ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรในชุมชนเป็นอย่างมาก


Back To Top