“ประวิทย์ จิตนราพงศ์” LFC2 เปิดใจ ทำไม LFC ทุกรุ่นต้องมางาน “รียูเนี่ยน”
คุณประวิทย์ จิตนราพงศ์ รองประธานคณะกรรมการจัดงานรียูเนี่ยน LFC ครั้งที่ 2 และศิษย์เก่า LFC 2 ให้สัมภาษณ์พิเศษ “เว็บไซด์สัมมาชีพ” เพื่อเชิญชวนให้บรรดาชาว LFC รุ่น1-9 มาพบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ใน “คืนสู่เหย้าชาว LFC รุ่น 1-9” ที่จะมีขึ้นใน วันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2562 ณ อาคารพฤกษชาติพระทรงชัย สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (สโมสร วปอ. วิภาวดีรังสิต) มีสาระน่าสนใจ ดังนี้
อยากทราบความเป็นมาของการจัดงานคืนสู้เหย้าชาว LFC รุ่น 1-9
หลักสูตร LFC เป็นหลักสูตรที่เรารวมพลังของคนที่มีจิตใจมุ่งมั่นช่วยเหลือสังคม โดยหลักการของสัมมาชีพ ปัจจุบันเราได้ดำเนินกิจกรรมเปิดอบรมหลักสูตรมาแล้วถึง 9 รุ่นด้วยกัน แต่เนื่องจากว่าเราอาจจะไม่ค่อยเข้มข้นในการรวมพลังทั้ง 9 รุ่นเข้าด้วยกัน
ในปีนี้ทางชมรม LFC จึงร่วมกับมูลนิธิสัมมาชีพจัดงานรียูเนี่ยน ตั้งแต่รุ่น 1-9 เพื่อมาสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ในเชิงที่จะร่วมกันทำงานเพื่อสังคม ชุมชนและท้องถิ่นต่างๆ เพราะประเทศไทยเราเป็นประเทศที่มีศักยภาพ มีความยิ่งใหญ่และมีความดีงามในหลายๆ ด้าน แต่บางครั้งการที่จะมารวมพลังกันเพื่อทำงานภาคสังคมยังกระจัดกระจายอยู่ เราก็มีหน่วยงานของภาครัฐหลายหน่วยงานที่พยายามช่วยเหลือ และมีชุมชนต่างๆ ที่มีความเข้มแข็ง แต่ขาดการสร้างพลังความสมัครสมานสามัคคี การนำเอาสิ่งดีๆ พวกนั้นมาเผยแพร่
เราก็หวังว่าการรวมตัวครั้งนี้ จะทำให้สมาชิกของ LFC ได้มาทำความรู้จักกันมากขึ้น และได้มีโอกาสที่จะเผยแพร่สิ่งดีงามที่ตัวเองได้ทำเพื่อสังคมมา และเป็นแรงดลใจเป็นตัวอย่าง เป็นรูปแบบที่จะทำให้กลุ่มอื่นได้เห็น และอาจจะมีแนวคิดดีๆ ซึ่งจะมาร่วมกันต่อยอด หรืออาจจะเอามาพัฒนาเป็นโครงการใหม่ขึ้นมา เพราะว่าแต่ละที่แต่ละชุมชนก็อาจจะมีศักยภาพมีความเชี่ยวชาญความชำนาญ แตกต่างกันออกไป
อยากให้เล่ารายละเอียดของการจัดงาน
เราก็อยากจะเชิญชวนศิษย์เก่าของ LFC ทุกรุ่น ให้ช่วยกันมาร่วมงานเยอะๆ ซึ่งภายในงานนอกจากจะมีการออกบูธที่จะเปิดโอกาสให้ LFC แต่ละรุ่น นำผลงานดีๆ ออกมาเผยแพร่แล้ว เรายังได้มีการเชิญผู้หลักผู้ใหญ่และวิทยากรหลายคน ที่มีความสำคัญมีศักยภาพและมีบทบาทในการพัฒนาประเทศมาร่วมด้วย
นอกจากนั้นแล้วเราอยากจะให้ผู้ที่สนใจอยากจะเรียน LFC รุ่น 10 ที่กำลังจะเปิดรับสมัคร ผู้ที่มีจิตศรัทธาที่อยากจะทำเพื่อสังคม ได้มาฟังแนวคิดของพวกเราได้มาทำความรู้จักกับ LFC มากขึ้น
เราจะมีธีมของงานดีๆ มีหัวข้อดีๆ ที่ให้ทันกับยุคทันกับสมัยปัจจุบัน เพราะตอนนี้เราจะใช้แนวคิดแบบเก่ามามาพัฒนาชุมชนอาจจะไม่ได้แล้ว เราก็คงจะต้องมีรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งเราก็คงจะต้องมาอาศัยการถ่ายทอดจากผู้ที่มีประสบการณ์กับผู้นำของภาครัฐ ที่ท่านต้องการจะวางวิสัยทัศน์ให้พวกเราได้ทราบด้วย
เราเองอาจจะเป็นเพียงแค่หลักสูตรเล็กๆ หลักสูตรหนึ่ง แต่เบื้องหลังหลักสูตรเล็กๆ พวกนี้ เราคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากภาคส่วนต่างๆ ของสังคม
ไฮไลท์สำคัญที่สุดที่ LFC รุ่น 1-9 ควรจะต้องมางานนี้นั้น
LFC เป็นหลักสูตรที่รวมคนเก่งคนมีความสามารถคนมีศักยภาพไว้มากมาย แต่เรายังขาดโอกาสที่จะมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ ที่มีอยู่ให้แก่กันและกัน เพราะฉะนั้น LFC 10 ปีครั้งนี้เราก็หวังว่า บุคลากรที่มีคุณค่าต่อประเทศไทยเรานั้น เราจะมาร่วมแชร์ประสบการณ์มาแบ่งปันกัน นอกจากมิตรภาพแล้ว เราต้องการที่จะมาสร้างอนาคตใหม่ของพวกเราร่วมกัน โดยใช้ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถที่มีอยู่มารวมพลังกัน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมไทย
เราเองอาจจะเป็นเพียงแค่หลักสูตรเล็กๆ หลักสูตรหนึ่ง แต่เบื้องหลังหลักสูตรเล็กๆ พวกนี้ เราคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากภาคต่างๆ ทั้งราชการ ทั้งหน่วยงานที่เป็นเอกชน ทั้งองค์กรอิสระ รวมทั้งยังมีหน่วยงานอื่นๆ ที่เป็นหน่วยงานกระทรวงหรือกรมของรัฐ ธนาคารที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ
ถ้าเรามีโครงการดีๆ รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ก็มีงบประมาณที่อยากจะช่วยงาน CSR เพื่อโครงการต่างๆ ของสังคม ได้มีโอกาสเติบโตขึ้นมา คือเหมือนหลายบริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอง ยินดีจะเป็นพี่เลี้ยงให้กับโครงการของชุมชนที่จะมีความยั่งยืนต่อไป แต่สิ่งต่างๆ พวกนี้บางที ทั้ง 2 ฝ่ายอาจไม่มีโอกาสเข้ามาพบกันได้มาเจอกัน เราก็หวังว่างานครั้งนี้จะเป็นนิมิตรหมายที่ดี
ความคาดหวังหลังจากพบปะกันแล้ววันที่ 17 สิงหาคม 2562
มาพบกันแล้วก็ไม่อยากให้มิตรภาพกับความสัมพันธ์ที่เราจะทำงานร่วมกันเพื่อสังคมมันหยุดอยู่ตรงแค่งานสังสรรค์ แต่เราอยากจะนำมาต่อยอดกันให้ได้ ในการจะเชื่อมโยงทุกฝ่าย โดยมูลนิธิสัมมาชีพเองก็พร้อมที่จะเป็นหน่วยงานกลางอยู่แล้ว แต่ลำพังจะให้ทีมงานของมูลนิธิมาทำงานโดยลำพังก็คงขาดพลัง เพราะพลังทั้งหมดจะมาจากสมาชิกมากกว่า และใคร่ขอเรียนเชิญสมาชิกทุกท่านว่า เสียสละเวลาครึ่งวันในวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 2562 มาร่วมกัน แล้วเราจะได้มารู้จักกับรุ่นต่างๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องอีกครั้งหนึ่งมารียูเนี่ยน และมาช่วยกันนำเสนอไอเดียดีๆ นำเสนอโครงการดีๆ เพื่อสังคมต่อไป
เนื่องจากปีนี้ครบรอบ 10 ปีมูลนิธิสัมมาชีพ อยากจะฝากแนวคิดอะไรถึง LFC
คือว่าทำอย่างไรที่จะให้ภาคบริการ ภาคเกษตร และหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการพัฒนาสัมมาชีพได้เรียนรู้ ความเข้าอกเข้าใจกันในการที่จะรวมพลังโดยอาศัยเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย
ในอดีตเราก็อาจจะอยู่และเติบโตกันแบบโดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน แต่พอถึงยุคสมัยที่ภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างเดียวไม่เพียงพอ เราก็คงจะต้องกำหนดทิศทางเอาเทคโนโลยี เข้ามาช่วยผสมผสานเพราะเทคโนโลยี เป็นส่วนนึ่งที่จะทำให้การเชื่อมโยงระหว่างชุมชนมันแนบแน่น การที่จะเผยแพร่ความรู้ผ่านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นระบบอินเทอร์เน็ต กับการเชื่อมโยงประโยชน์จากเว็บไซต์ต่างๆ เข้ามา
ถ้าเราสามารถที่จะเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ชุมชนแห่งนั้นจะไม่ใช่เพียงแค่ชุมชนที่จะให้บริการสินค้าหรือบริการในสิ่งที่ตัวเองมีในชุมชน ให้แก่คนไทยกลุ่มเล็กๆ แต่เราสามารถที่จะเผยแพร่ไปยังชุมชนที่เป็นสังคมโลก ให้ทั่วโลกได้รู้จัก สินค้า บริการ และผลิตภัณฑ์ตัวเอง เพื่อจะนำให้พวกเขามาใช้บริการ
อาจจะมีการซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต หรืออาจจะมาเที่ยวมาแวะเยี่ยมชม ดูศิลปวัฒนธรรม สิ่งดีๆ ในหมู่บ้านในชุมชนนั้นๆ เป็นการเปิดโลกทัศน์เปิดตลาด เพราะตลาดของชุมชนของเรา ต้องบอกว่าโลกทั้งโลกคือตลาดของเรา ไม่ใช่ตลาดของเรามันจะแคบอยู่ในคนไทยกลุ่มเป้าหมายแค่ไม่กี่คน ซึ่งอาจจะเป็นความคิดที่แข่งขันกับโลกไม่ได้แล้ว
LFC 10 ปีครั้งนี้เราก็หวังว่า บุคลากรที่มีคุณค่าต่อประเทศไทยเรานั้น เราจะมาร่วมแชร์ประสบการณ์มาแบ่งปันกัน นอกจากมิตรภาพแล้ว เราต้องการที่จะมาสร้างอนาคตใหม่ของพวกเราร่วมกัน
ขอบคุณภาพประกอบจากเว็บไซต์ prfocus.co.th
หมายเหตุ
LFC ทุกรุ่น แจ้งความประสงค์เข้าร่วมงานได้ที่ มูลนิธิสัมมาชีพ โทร. 02-5309204-5 หรือ Inbox ชื่อ-สกุล เบอร์โทร ส่งมาที่เพจเฟซบุ๊คมูลนิธิสั https://web.facebook.มมาชีพ com/sammachiv/ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 10 สิงหาคมนี้ #รวมพลคืนสู่เหย้าLFC