ย้อนรอย 1 ปี “มูลนิธิสัมมาชีพ” กับภารกิจยกระดับเศรษฐกิจชุมชน
ในห้วงเวลา 1 ปี ที่ผ่านมา “มูลนิธิสัมมาชีพ” ยังเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจหลักอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นยิ่งขึ้นอาจจะกล่าวได้ว่าในปี 2561 เป็นปีแห่งการขับเคลื่อนขยายผลรางวัลสัมมาชีพ และร่วมสร้างต้นแบบการพัฒนาผู้ประกอบการกับพันธมิตรเครือข่ายภาคส่วนต่างๆ ตามแนวทางการสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เพื่อหนุนเสริมการสร้างเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่นและพัฒนาอาชีพตามหลักการสัมมาอาชีวะอย่างแท้จริงโดยมีภารกิจสำคัญๆ ดังนี้
โครงการร่วมสร้างต้นแบบการพัฒนาผู้ประกอบการ เพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่น โดยความร่วมมือกับ SME Development Bank จำนวน 24 ครั้ง มีผู้เข้าร่วม 1,231 คน พื้นที่ดำเนินการ 8 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน แพร่ ลำปาง ลำพูน และพะเยา
โครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำองค์การเกษตรกร โดยความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน 14 ครั้ง มีผู้เข้าร่วม 2,700 คน พื้นที่ดำเนินกิจกรรม 76 จังหวัดทั่วประเทศ
โครงการพัฒนาผู้ประกอบการชุมชน (MOU) กรมการพัฒนาชุมชน โดยการสังเคราะห์ และใช้กรณีศึกษาของงานรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ ทั้ง 2 ประเภท คือ วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จำนวน 13 ครั้ง มีผู้เข้าร่วม 350 คน พื้นที่ดำเนินการ 12 จังหวัด รวม 12 กลุ่มอาชีพ และจัดเวทีประชุมอีก 1 ครั้ง
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหารายได้ร่วมกับคณะกรรมการภาคีสัมพันธ์จัด “โบว์ลิ่งการกุศล สัมมาชีพสัมพันธ์”เมื่อวันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2561 ณ BLU-O RHYTHM & BOWL ชั้น 5 สยามพารากอน จุดประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในการขับเคลื่อนงานสัมมาชีพ และสร้างความสัมพันธ์ให้แก่สมาชิกผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงและครอบครัว รวมถึงการหารายได้เพื่อมาสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมและโครงการของมูลนิธิ
โครงการอบรมหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงรุ่นที่ 9
หลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของมูลนิธิสัมมาชีพ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ซึ่งในปี 2561 นับเป็นรุ่นที่ 9 ซึ่งในรุ่นนี้ เป้าหมายในการอบรมจะเป็นการยกระดับชุมชน วิสาหกิจชุมชนขึ้นเป็นผู้ประกอบการ โดยเฉพาะในรุ่นที่ 9 นี้จะให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่ไปปฏิบัติในพื้นที่จริง มีผู้ร่วมอบรมทั้งหมด 73 คน ล้วนแต่เป็นผู้บริหารระดับกลางและระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชนที่เกี่ยวข้องงานกิจกรรมเพื่อสังคมและจากภาคประชาสังคม เริ่มอบรมตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม ถึง 22 กันยายน 2561
สำหรับงานมอบรางวัล “บุคคลต้นแบบสัมมาชีพ” เป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักที่มูลนิธิสัมมาชีพดำเนินการมาต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีผู้ได้รับรางวัลนี้ทั้งหมด 5 คน
ในปีนี้คณะกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพได้มีมติเป็นเอกฉันท์เลือก “ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม” ประธานกรรมการ บริษัทศุภาลัย จำกัด(มหาชน) เป็นบุคคลต้นแบบสัมมาชีพประจำปี 2561 และเป็นคนที่ 6 ที่ได้รับรางวัล
ซึ่งในปีนี้มูลนิธิสัมมาชีพได้มอบรางวัล “ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้นแบบสัมมาชีพ และรางวัลวิสาหกิจชุมชนสัมมาชีพขึ้น เป็นปีที่ 2 ในปีนี้ งานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิลด์
สำหรับรางวัลเอสเอ็มอี ต้นแบบสัมมาชีพปีนี้มี 5 รางวัล ได้แก่
บริษัทกฤษณา เฮลท์ตี้โปรดักส์ จำกัด ธุรกิจแปรรูปขนมจากข้าวอินทรีย์ ชื่อ “ตังตัง” และยังทำหน้าที่โซ่ข้อกลางให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อีกกว่า 200 ราย
บริษัทซีอาร์–วัน ไบโอพลัส จำกัด ผลิตสารชีวภาพทางการเกษตร 5 ชนิด โดยใช้วัตถุดิบจากเปลือกกุ้งและสมุนไพร
บริษัทเอ็นทีที 888 จำกัด ผลิตผงสุขภาพจากหน่อไม้ฝรั่ง โดยรับซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรในราคาที่สูง
บริษัทซิมพลิ เค็คคอร์ จำกัด ผลิตสินค้าหัตกรรมจากกระดาษสา โดยพัฒนางานหัตถกรรมให้อยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมไทย
บริษัทไบโอไบรท์ จำกัด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดออร์แกนิก เหมาะสำหรับคนรักษาสุขภาพและเป็นโรคภูมิแพ้
สำหรับรางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ มี 3 ประเภทประกอบด้วย
วิสาหกิจชุมชนบ้านนาตีน จังหวัดกระบี่ ได้รับรางวัลประเภทบริการและสวัสดิการชุมชน มีจุดเด่น ด้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมมุสลิม
กลุ่มออมทรัพย์ บ้านสระยายชี จังหวัดพิจิตร ได้รับรางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบด้านการเงิน ซึ่งในห้วงเวลา 37 ปีมีเงินสัจจะสะสมกว่า 42 ล้านบาทและมีสวัสดิการให้กับสมาชิกอย่างมากมาย
วิสาหกิจชุมชนชีวะวิถี น้ำเกี๋ยน จังหวัดน่าน ได้รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบประเภท การผลิตและแปรรูปโดย ด้วยการนำสมุนไพรที่มีในท้องถิ่นมาเป็นวัตถุดิบสำหรับใช้ผลิตเครื่องสำอาง
ทั้งนี้กระบวนการและขั้นตอนการคัดเลือกได้พิจารณาด้วยความรอบคอบและชอบธรรม มีทั้งคณะกรรมการพิจารณาและคณะกรรมการตัดสินมาจากผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรต่างๆ
ในปี 2561 นอกจากภารกิจหลักๆ ข้างต้นแล้ว มูลนิธิสัมมาชีพยังมีกิจกรรมขยายผลรางวัลวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพปี 2560 ประกอบด้วยวิสากิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง จังหวัดศรีสะเกษ วิสาหกิจชุมชนบ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มออมทรัพย์บ้านดอนคา จังหวัดนครศรีธรรมราช
รวมถึงผู้ประกอบการเอสอ็มอี ที่ได้รับรางวัลทั้ง 4 ราย โดยเฉพาะเรือนไหมใบหม่อน โดยมูลนิธิได้เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนการจัดตั้ง “Surin Dynamic Forum” ที่ร่วมกับองค์กรธุรกิจ วิชาการ ราชการและภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาจังหวัดสุรินทร์และเข้าไปสนับสนุนบริษัท กรีนโกรท ออร์แกนิก ขยายเครือข่ายเกษตรกรให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับเศรษฐกิจชุมชน กับองค์กรทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจต่างๆ อีกมากมาย
อย่างไรในปี 2562 มูลนิธิสัมมาชีพ เตรียมกิจกรรมต่างๆ มากมาย นอกจากกิจกรรมที่ดำเนินเป็นประจำทุกๆ ปีแล้วยังจะมีกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีอีกด้วย