ผู้นำ:นักวางกลยุทธ์เชิงรุก-รับฟื้นอาชีพชุมชน
หลักสูตร“ผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 11” ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มเสาร์ 31 ตุลาคม 2563–วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563 มูลนิธิสัมมาชีพเชิญ “นายวิเชฐ ตันติวานิช” ในฐานะประธานคณะกรรมการสถาบันผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง ที่ดูแลหลักสูตร มาเป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง ในยุค New Normal
นายวิเชฐ เป็นนักวางกลยุทธ์ชั้นแนวหน้าของไทย มีชื่อเสียงขจรไกลรับรู้ถึงบริษัทต่างประเทศหลายแห่ง เขาอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทชั้นนำมากมาย สะสมประสบการณ์การทำงานมากว่า 30 ปี เป็นบอร์ดบริหาร เป็นที่ปรึกษาบริษัท สอนหนังสือ นักสร้างหลักสูตรเพื่อพัฒนาคน หากกล่าวโดยรวมแล้ว คือ คนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จกว่า 40 บริษัท
ไม่ว่าเป็น บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยแอร์เอเซีย จำกัด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาคณะกรรมการ สถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นแหล่งระดมทุน ฟูมฟักนักธุรกิจขนาดเล็กให้เติบโตแข็งแรง และนอกจากนี้ยังเคยเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
สิ่งบ่งบอกว่านายวิเชฐ เป็นนักกลยุทธ์มือดี คือ เข้าไปนั่งเก้าอี้ผู้บริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ขุมธุรกิจแสนล้านของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เพราะเจ้าสัวคนนี้ขึ้นชื่อว่า “รู้จักใช้คน” โดยเฉพาะการอาศัยสายสัมพันธ์ และความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ของคนมาต่อยอดธุรกิจแบบลดลัดขั้นตอน
ชื่อเสียงของนายวิเชฐ ดังกระฉ่อนภูมิภาคอาเซียน เมื่อเขาถูกกล่าวถึงว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ดีลซื้อกิจการมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท ของเจ้าสัวเจริญ ที่นำไทยเบฟ และ ทีซีซี แอสเซ็ทส์ เข้าซื้อกิจการบริษัทเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (เอฟแอนด์เอ็น) ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในอาเซียน
นั่นคงเป็นภาพสะท้อนของนักกลยุทธ์ของกลุ่มทุนไทยที่ต่อสู้ได้ชัยชนะเหนือกลุ่มทุนเบียร์ไฮเนเก้น แม้งานนี้เขาออกตัวว่า เป็นเพียงฟันเฟืองหนึ่งในการขับเคลื่อนตอนท้ายๆเท่านั้น แต่ไม่ปฏิเสธต่อการลุยอยู่เบื้องหน้า จนผลักดัน เดินงาน ทำให้ดีลธุรกิจมหาศาลสำเร็จ
ความสำเร็จของชีวิตการงานนายวิเชฐนั้น มีหลักยึดมั่นในชีวิตคือ ตัดสินใจ, แก้ปัญหา และสื่อสารให้เข้าใจ รวมถึงต้องรู้จักปรับตัวให้ได้ เข้ากับทุกองค์กรให้เป็น อีกทั้งนักบริหารต้องเป็นผู้นำที่มีภาวะความเป็นผู้นำ ผู้นำต้องกล้าตัดสินใจในทุกเรื่อง และผู้นำต้องแก้ปัญหาเป็น เพราะในการทำงานย่อมรายล้อมด้วยอุปสรรคที่ต้องแก้ หากท้อต้องเก็บอาการ ถ้าแพ้ต้องแพ้ให้เป็น แต่อย่าถอย และสิ่งสำคัญต้องแปลงภาระงานให้เป็น “ความสนุก” จึงอยู่ร่วมกับภารกิจไม่รู้เบื่อหน่าย
กล่าวถึงที่สุดแล้ว ชีวิต หลักคิด ประสบการณ์หลากหลายของนายวิเชฐ จะเกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ และถ่ายทอดสู่การปรับตัว เกิดพัฒนา ได้ในระดับน่าสนใจยิ่ง ดังนั้น การกลับมาเป็นวิทยากรหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 11 จึงถือเป็นความสำคัญ
สำคัญเพราะ นายวิเชฐ เมื่อสร้างชื่อเสียงจนเป็นที่ยอมรับในวงการมาได้แล้ว ก็ถึงจุดที่มีความปรารถนาที่จะตอบแทนคืนประโยชน์กลับสู่สังคมส่วนรวม โดยวิธีส่งต่อองค์ความรู้ที่มีอยู่เพื่อกลับไปพัฒนาคนในสังคม
พร้อมทั้งยินดีให้คำแนะนำคนรุ่นใหม่ ในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ อย่างเช่น ล่าสุดได้มีบทบาทเป็นประธานศูนย์ C Asean ที่เชื่อมโยงความเป็นธุรกิจ ศิลปะ วัฒนธรรม ทั่วทั้งอาเซียน ให้เชื่อมโยงเข้าหากันได้อย่างมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
อีกอย่าง การเข้าอบรมหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ นอกจากได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของนายวิเชฐแล้ว สิ่งสำคัญคือ ผู้นำจะมีหลักคิดตามวิถีผู้นำ เพื่อนำพากิจกรรม กิจการชุมชน สังคม องค์กร อย่างเหมาะสมต่อตัวเอง ด้วยแง่คิดง่ายๆ คือ เทคนิคการรู้ตัวเองก่อนตัดสินใจนำพาและสร้างกิจการใหม่ๆขึ้น เพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ได้อย่างถูกต้อง ให้สอดรับกับสภาพคล่อง และความเสี่ยง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้นำต้องกำหนดแนวคิดการนำให้ชัดเจนก่อน และควรถามตนเองก่อนว่า คุณเป็นผู้นำ นักลงทุน/นักธุรกิจแนวไหน เชิงรุกหรือเชิงรับ แล้วจึงจะนำมาวางเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ เพื่อความเติบโตของธุรกิจหรือการลงทุนของชุมชน
หลักคิดเหล่านี้ แม้เป็นหลักการพื้นฐานผู้นำ แต่เมื่อถูกถ่ายทอดจากวิทยากรที่ชื่อ “วิเชฐ” ผู้มีประสบการณ์ด้านกลยุทธ์ ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นผู้นำองค์กรมาโชคโชน แน่ละย่อมไม่ธรรมดา และหาไม่ได้ง่ายๆ ถ้าไม่มาอบรมหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 11 เปิดรับสมัครแล้ววันนี้ถึง 20 ตุลาคมนี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณณัฐณิชา 094-0430163 / คุณเกียววะลี 090-2623653