skip to Main Content
02-530-9204 sammachiv.pr@gmail.com
นทท.คนไทยช่วยพยุงเศรษฐกิจ“เชียงใหม่”

นทท.คนไทยช่วยพยุงเศรษฐกิจ“เชียงใหม่”

นทท.คนไทยช่วยพยุงเศรษฐกิจ“เชียงใหม่”

 

“เชียงใหม่” เป็นเพียงจังหวัดเดียวของภาคเหนือที่เป็นพื้นที่นำร่องเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนครบโดสมาเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว โดยล่าสุดเมื่อ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ศบค.ยกระดับให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือสีแดง ซึ่งเท่ากับผ่อนคลายมาตรการให้ดำเนินกิจกรรมบางส่วนได้มากขึ้นอีก

 

อย่างไรก็ตาม เชียงใหม่ได้ชื่อว่า เป็นจังหวัดติด 1 ใน 10 ของโลก เป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานและพักผ่อนไปด้วย มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ใน อ.เมือง สามารถขึ้นชมและเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมื่องคือวัดพระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุคู่เมืองล้านนา อีกทั้งยังได้ชมประตูท่าแพ 

 

 

 

ส่วนนักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสอากาศเย็นสบายพร้อมชมวิวหมอกใน อ.เมือง แล้วไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ม่อนแจ่ม สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ใน อ.แม่ริม และสายกางเต๊นท์ ต้องขึ้นดอยม่อนเงาะ อ.แม่แตง หรือไปอุทยานแม่ปิง พร้อมชมบรรยากาศรื่นรมย์ของทะเลสาบดอยเต่าเพื่อเติมพลังอากาศหนาวให้ชีวิตมีคุณค่า

 

การเปิด “เชียงใหม่”นั้น ศบค.กำหนดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวไว้แค่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.ดอยเต่า อ.แม่ริม และ อ.แม่แตง โดยพื้นที่นำร่องเหล่านี้ถูกยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่มีการห้ามออกนอกเคหะสถาน ส่วนร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า หรือ สถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร บริโภคในร้านได้ เปิดตามเวลาปกติไม่เกิน 23.00 น. สิ่งสำคัญคือ งดการจำหน่ายและงดดื่มสุรา-แอลกอฮอล์ในร้านเด็ดขาด ฝ่าฝืนต้องรับโทษ

 

นอกจากนี้โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ การแสดงพื้นบ้าน หรือ สถานที่ลักษณะเดียวกันจำกัดจำนวนผู้ชม โดยพื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ พื้นที่เปิดโล่งตามขนาดพื้นที่รวมทั้งศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันเข้าชมได้ 75 %  ในห้างสรรพสินค้า และโรงแรม จัดประชุม จัดมหกรรมด้านกีฬา จัดแสดงสินค้า (ไม่มีชิมอาหาร) ไม่เกิน 500 คนตามขนาดพื้นที่

ต่างชาติคึกคักไปพื้นที่ดื่มแอลกอฮอล์

มีรายงานบรรยากาศเปิดประเทศเริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา สื่อแทบทุกสำนักระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติลงเครื่องบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิหนาแน่น นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เปิดประเทศวันแรกสายการบินเข้าไทยถึง 61 เที่ยวบิน ส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินจากยุโรป เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 2,300 คน และคนไทยเดินทางกลับอีกบางส่วนรวมประมาณ 3,000 คน

 

ไม่เพียงเท่านั้น ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ย. มีสายการบินต่างชาติทั่วโลกบินเข้าและออกไทย 27 สายการบิน ประมาณการมีผู้โดยสารรวม 15,230 คน และในจำนวนนี้สายการบินเจจู แอร์ ยังบินมาท่าอากาศยานเชียงใหม่พร้อมนักท่องเที่ยวอีก 70 คน

 

     

 

อีกทั้งเที่ยวบินซูริก- ภูเก็ต นำนักท่องเที่ยว 229 คน บินตรงมาเที่ยวและพักผ่อนในภูเก็ต โดยไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า เต็มไปด้วยรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มีโอกาสเดินทางมายังภูเก็ต แบบไม่ต้องมีการกักตัว 7 วันหรือ 14 วันอีก โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ภูเก็ต เป็นพื้นที่สีฟ้า สามารถดื่มแอลกอฮอล์ได้ ไปท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ

 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า เห็นข้อมูลที่คาดการณ์ว่า คนเดินทางเข้ามาในช่วง 5 วันแรกของ พ.ย. มี 3 จังหวัดที่เป็นจุดหมายหลักคือ กรุงเทพ ภูเก็ต และเชียงใหม่

 

แน่ละ!! ทั้ง 3 จังหวัดนั้น มีเพียงเชียงใหม่ที่ไม่อนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ ส่วนกรุงเทพกับภูเก็ตเปิดพื้นที่ฟรี ด้วยเหตุนี้ รศ.นพ.ธีระ เสนอแนะว่า ควรเปิดจุดบริการตรวจคัดกรองโรคถาวร ณ hub การเดินทางขนส่งสาธารณะ โดยบริการตรวจไม่คิดค่าใช้จ่าย และแจ้งผลทางโทรศัพท์/ไลน์/sms แต่ที่สำคัญคือ ควรมุ่งเป้าให้ทุกคนที่คิดว่าเสี่ยง ไม่ว่าจะคนไทย คนต่างชาติ นายจ้าง ลูกจ้างในกิจการต่างๆ ได้สะดวกในการเข้ามาตรวจ

 

ดังนั้น การเปิดประเทศเริ่มตั้งแต่ 1 พ.ย. แม้มีความคึกคัก พร้อมรอยยิ้มที่เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยมาลงเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือต่างจังหวัดก็ตาม แต่บรรยากาศเช่นนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการคาดหวังที่จะฟื้นเศรษฐกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้กลับมา หรือฉุดประเทศพ้นจากความย่อยยับจากภัยเชื้อโควิดคุกคามมาร่วม 2 ปี

 

เชียงใหม่ทั้งเสี่ยง-กลัว แต่ยินดีต้อนรับ

สำหรับพื้นที่เชียงใหม่ การระบาดของโควิดยังติดอันดับใน 10 จังหวัดที่มีเชื้อแพร่ต่อวันสูงสุด ข้อมูลเมื่อ 2 พ.ย. มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มอีก 271 คน รวมยอดสะสมจำนวน 21,340 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 58 คน

 

 

หากพิจารณาในรอบ 14 วันล่าสุดตั้งแต่ 20 ต.ค.ถึง 2 พ.ย.แล้ว มีผู้ติดเชื้อเพิ่มรวมมากถึง 5,078 คนหรือเฉลี่ยวันละ 362 คน นับว่าเข้าข่ายเป็นพื้นที่ระบาดรุนแรง ขณะที่ข้อมูลการฉีดวัคซีนเมื่อ 1 พ.ย. ฉีดเข็มหนึ่งไปแล้ว 1.1 ล้านโดส ครอบคลุม 64.17% ฉีดเข็มสองจำนวน 7.6 แสนโดส ครอบคลุม 44.43% และฉีดเพิ่มกระตุ้นเข็มสามเพียง 3.8 หมื่นโดส

 

อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อเพิ่มรายวันนั้น ถ้าพิจารณาใน 3 วันล่าสุด คือตั้งแต่ 31 ต.ค. ถึง 2 พ.ย.แล้ว แม้จำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงค่อนข้างน้อยระดับ 15-20 คน แต่ยอดติดเชื้อวันที่ 2 พ.ย.กลับลดลงกว่า 100 คน ส่อถึงโอกาสที่การระบาดจะลดความรุนแรงมาอยู่ระดับเฝ้าระวังได้ในไม่ช้า ซึ่งนับเป็นแนวโน้มที่น่ายินดี และสามารถเปิดรอยยิ้มรอต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนได้อย่างเบิกบาน

 

วี่แววเศรษฐกิจท่องเที่ยวฟื้น?

จุดที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตสูงสุดของไทยอยู่ที่ปี 2562 ซึ่งโควิดยังไม่ระบาด ในปีนั้นกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่า ไทยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 39.9 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศมากถึง 1.9 ล้านล้านบาท ถัดมาปี 2563 โควิดเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี นักท่องเที่ยวลดฮวบลงเหลือแค่ 6.7 ล้านคน ส่วนรายได้เหลือเพียง 3.3 แสนล้านบาท สิ่งนี้ได้ฉุดให้ระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศย่ำแย่ตามไปด้วย

 

สำหรับเชียงใหม่แล้ว ในปี 2564 ได้รับผลกระทบครั้งสำคัญ นักท่องเที่ยงต่างชาติมาเที่ยวเบาบางมาก กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานว่า ปี 2564 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 1.5 หมื่นคน ทำรายได้เข้าจังหวัดประมาณ 115 ล้านบาท และมีนักท่องเที่ยวคนไทยเข้าเชียงใหม่ ได้ช่วยประคับประคองเศรษฐกิจท่องเที่ยวทดแทนถึง 1.4 ล้านคนสร้างรายได้ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท

 

นักท่องเที่ยวมาเยือนเชียงใหม่ปี 2564
 

เดือน

นักท่องเที่ยว (คน) รายได้ (ล้านบาท)
ผู้มาเยือนคนไทย % เปลี่ยนแปลง ปี 63 ผู้มาเยือนต่างชาติ % เปลี่ยนแปลง ปี 63 จากผู้มาเยือนคนไทย % เปลี่ยนแปลง ปี 63 จากผู้มาเยือนต่างชาติ % เปลี่ยนแปลง ปี 63
ม.ค. 298,961 – 59.47  2,628 – 99.15  2,076.11 – 70.13 21.77 – 99.47
ก.พ. @ @ @ @ @ @ @ @
มี.ค. 382,766 + 8.83  3,518 – 94.07  2,726.82 – 0.54 30.74 – 95.98
เม.ย. 392,204 @ 4,037 + 394.7  2,841.26 +14,500 35.50 +63.75
พ.ค. 95,795 + 723 2,073 + 255 520.81 +524.5 11.48 -25.89
มิ.ย. @ @ @ @ @ @ @ @
ก.ค. 68,521 – 82.93  989 – 60.58  349.59 -88.18 5.22 -67.46
ส.ค. 67,650 – 81.88  964 – 63.44  342.22 -86.19 5.13 -71.78
ก.ย. 148,477 – 54.59  1,075 – 73.61  772.04 -68.19 5.76 -80.06
รวม 1,454,374 @ 15,284 @ 9,628.85 @ 115.6 @
ที่มา: รวบรวมจาก กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

 

ดังนั้น เมื่อพิจารณาข้อมูลการท่องเที่ยวเชียงใหม่ แนวโน้มในช่วงเปิดประเทศใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้ โอกาสจะกลับมาสดใสค่อนข้างยาก นั่นอาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งโควิดยังระบาดรุนแรง ประกอบกับเงื่อนไขดำเนินกิจการ โดยเฉพาะสถานบันเทิงและพื้นที่ดื่มแอลกอฮอล์ยังไม่อนุญาตนักท่องเที่ยวสังสรรค์กันตามปกติ

 

คงมีแต่บรรยากาศแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.ดอยเต่า อ.แม่ริม และ อ.แม่แตง ที่ ศบค.ให้เปิดนำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาซึมซับทิวทัศน์สวยงาม ซึ่งนั่นยังไม่ดึงดูดได้มากพอความต้องการของคนต่างชาติ ด้วยเหตุนี้ ความหวั่นวิตกจึงก่อร่างความน่ากลัวที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นด้วย…สิ่งนี้คือจุดเสี่ยงที่ส่อถึงการแลกมากับนโยบายเปิดประเทศครั้งนี้ ต้องระวัง อย่าประมาทในมาตรการป้องกันโควิด


ติดตามข้อมูลข่าวสารของมูลนิธิสัมมาชีพเพิ่มเติมได้ที่:

https://www.facebook.com/sammachiv

https://www.facebook.com/chumchonmeedee</a

https://www.youtube.com/user/RightLivelihoods

Back To Top